หุ้น SAMART มี Upside สูงถึง 50.3%
Telecom Journal (6 October 2007) 14:19:53
บอร์ด SAMART อนุมัติตั้งบริษัทใหม่ในฮ่องกง ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านเหรียญ เป้าหมายเพื่อลงทุนสาธารณูปโภคในอินโดจีน พร้อมเตรียมโอนเงินลงทุนในกัมพูชาทั้งหมดเข้าในบริษัทใหม่ ศิริชัย รัศมีจันทร์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SAMART) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 5/2550 เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2550 ว่า ได้มีมติอนุมัติให้ปรับโครงสร้างการลงทุนในต่างประเทศของบริษัทฯ โดย1.เพื่อปรับโครงสร้างการลงทุนในต่างประเทศของบริษัทฯ ให้ชัดเจน ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทใหม่ในประเทศฮ่องกง ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในบริษัทใหม่นี้ร้อยละ 100 เพื่อทำหน้าที่เป็นบริษัทโฮลดิ้ง สำหรับการลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคในภูมิภาคอินโดจีน2.อนุมติให้บริษัทฯ โอนเงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด ( CATS ) ซึ่งประกอบธุรกิจจัดตั้งระบบและให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา ที่บริษัทฯ ถืออยู่ทั้งหมดใน CATS จำนวน 250,000 หุ้น ให้แก่บริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ที่ประเทศฮ่องกง (ในข้อ 1) ในมูลค่าหุ้นละ 48 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 100 ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด เป็นมูลค่าทั้งสิ้นเท่ากับ 12 ล้านเหรียญสหรัฐ3.อนุมัติให้ CATS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 โอนเงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท กัมปอต เพาเวอร์แพลนท์ จำกัด (KPP) ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับโรงงานกัมปอตซีเมนต์ในประเทศกัมพูชา ที่ CATS ถืออยู่ทั้งหมดใน KPP จำนวน 500,000 หุ้น ให้แก่บริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ที่ประเทศฮ่องกง (ในข้อ 1) ในมูลค่าหุ้นละ 10 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 100 ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด เป็นมูลค่าทั้งสิ้นเท่ากับ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ4.มอบอำนาจให้คณะกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท ตามหนังสือรับรองเป็นผู้มีอำนาจ เจรจา ทำความตกลงและลงนามในเอกสารและสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดำเนินการอื่นใดอันจำเป็นซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการจัดตั้งบริษัทใหม่ การจำหน่ายหุ้นสามัญของ CATS และ KPP ดังกล่าวฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันซ่า (FSL) วิเคราะห์หุ้น SAMART หลังอนุมัติปรับโครงสร้างการลงทุน โดยจัดตั้งบริษัทจดทะเบียนใน HK ทุนจดทะเบียน $US 20 m.พร้อมโอนเงินลงทุนในกัมพูชาทั้งหมดเข้าในบริษัทดังกล่าวโดยระบุว่าแนวทางดังกล่าว เป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นในบริษัทย่อยของ SAMART จากเดิมถือตรงใน CATS และถือทางอ้อมใน KPP มาเป็นถือทางอ้อมทั้ง 2 บริษัทผ่านบริษัท Holding ที่ HK จึงไม่กระทบมูลค่าหุ้นของ SAMARTปัจจุบัน….แต่การย้ายลูกไปอยู่ภายใต้บริษัท Holding ที่ HK จะส่งผลให้เสีย Tax ในกรณีมีกำไรจากการขายเงินลงทุนเพียง 17% (vs ภายใต้โครงสร้างเดิมที่อยู่ภายใต้ SAMART จะเสีย TAX 30%) เปรียบเสมือนการปูทางเพื่อขายบริษัทลูก CATS ให้แก่นักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีกระแสเงินสดแน่นอน, ผูกขาด และ EBITDA Margin สูงถึง 45-50% โดยเราคาดว่า SAMART มีแนวโน้มที่จะขายเงินลงทุนบางส่วนออกไป แต่ยังคงถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 51% ตามเงื่อนไขสัญญาสัมปทาน โดยปัจจุบัน CATS มีมูลค่าตามราคาตลาดราว $US 200 m. (หรือราว 7,000 ลบ.) vs BV ณ 2Q07 ที่ 261 ลบ. และถือเป็น Hidden Asset (คล้ายกรณีขาย SHEN ของ SATTEL) ดังนั้น ภายใต้สมมติฐานการขายหุ้น CATS 40% ให้นักลงทุนต่างประเทศ โดยDiscount จากราคาตลาด 20% SAMART จะได้เงินสดสูงถึง 2,240 ลบ. และหลังภาษีที่ 1,876 ลบ. หรือคิดเป็นเงินสดถึง 1.92 บาท/หุ้นแม้การขายลูกอาจไม่เกิดในระยะเวลาอันใกล้ แต่ราคาหุ้นปัจจุบันก็ถูกมาก มี Upside สูงถึง 50.3%แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 11.80 บาท/หุ้น และมีโบนัสจากการขายบริษัทลูกเป็นของแถมด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา ประเมินว่า การปรับโครงสร้างบริษัทในครั้งนี้อาจมีส่วนเกี่ยวเนื่องถึงการขายหุ้น CATS ที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ เนื่องจากอัตราภาษีในประเทศฮ่องกงที่ต่ำกว่าของไทย จะช่วยลดภาระภาษีจากการขายหุ้นได้ทางหนึ่งหากการขายหุ้น CATS เป็นความจริง เราคาดว่าจะส่งผลบวกต่อ SAMART ในแง่ของกำไรจากการขายหุ้น และมีเม็ดเงินเหลือพอที่จะขยายการลงทุนสู่ธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคหรือธุรกิจ Broadcast เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต คงคำแนะนำ ซื้อ Fair Price 9.80 บาท (sum-of-the-parts)ส่วนฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไซรัส วิเคราะห์ว่า การปรับโครงสร้างดังกล่าวน่าจะสอดคล้องกับข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า SAMART อาจจะขายเงินลงทุนบางส่วนใน CATS ให้กับนักลงทุนที่สนใจจะซื้อ โดยการตั้งบริษัทในฮ่องกงจะเป็นการใช้ประโยชน์ทางภาษีหากมีการขายหุ้น เพราะอัตราภาษีในฮ่องกงเท่ากับ 17% นอกจากนี้ หาก Holding Company จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้ ก็จะมีราคาตลาดให้อ้างอิงและต้อง Mark to market เป็น Hidden value ของ SAMART ได้อีกอย่างไรก็ตาม หาก Holding Company ขายหุ้น CATS 25% ในราคา US$50 จะทำให้ราคาเป้าหมายของ SAMART เพิ่มขึ้นอีก 1.20 บาท/หุ้นจากปัจจุบันที่ 8.80 บาท/หุ้น ทั้งนี้ ยังไม่รวมหุ้นอีก 75% ที่เหลืออยู่ ที่ควรจะ Mark to Market ตามราคาตลาด ซึ่งจะยิ่งทำให้มูลค่าหุ้น SAMART เพิ่มขึ้นได้อีก เราจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” โดยยังให้ราคาเป้าหมายเท่าเดิมจนกว่าจะมีการซื้อขายหุ้นจริงตามที่เป็นข่าว
No comments:
Post a Comment